คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 2104/2567  บริษัท ก.                                โจทก์

                                                                     นางสาว ศ.                               จำเลย

พ.ร.บ. ความลับทางการค้า พ.ศ. 2545 มาตรา 3

         ข้อมูลรายชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าโจทก์ไม่ได้อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์
ที่มีการตั้งรหัสผ่านเป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่มีการจัดเก็บไว้ในเอกสาร
ที่ไม่ปรากฏว่ามีมาตรการป้องกันการเข้าถึงหรือจัดเก็บไว้ในที่เฉพาะ เช่นนี้พนักงานอื่นนอกจากจำเลยย่อมสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย โจทก์ไม่ได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาข้อมูลรายชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าตามฟ้องไว้เป็นความลับ ข้อมูลดังกล่าวจึงมิใช่ความลับทางการค้า

________________________________

         โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

         จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง

         ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการคาระหว่างประเทศกลาง พิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียม
ให้เป็นพับ

         โจทก์อุทธรณ์

         ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการคาระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า
ขอเท็จจริงที่โจทกและจำเลยไม่โตเถียงกันในชั้นอุทธรณ์รับฟังได้ในเบื้องต้นว่า โจทก์ประกอบกิจการจำหน่ายรถยนต์ จำเลยเป็นพนักงานโจทก์ฝ่ายขายบริการประกันภัยและต่อทะเบียนรถยนต์ มีหน้าที่ติดต่อลูกค้านำเสนอขายประกันภัยและต่อทะเบียนรถยนต์ จัดเก็บรวบรวมรายชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์
ของลูกค้าทั้งหมด โดยจำเลยต้องบันทึกข้อมูลดังกล่าวไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สำนักงานของโจทก์ ต่อมาจำเลยลาออกจากการเป็นพนักงานโจทก์

         มีปญหาตองวินิจฉัยตามอุทธรณ์โจทก์ว่า ข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์
ลูกค้าของโจทก์ตามฟ้อง เป็นความลับทางการค้าหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติความลับทางการค้า
พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓ ความลับทางการค้านั้น ต้องเป็นข้อมูลการค้าซึ่งยังไม่รู้จักกันโดยทั่วไป หรือยังเข้าถึงไม่ได้ในหมู่บุคคลซึ่งโดยปกติแล้วต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว โดยเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เนื่องจากเป็นความลับ และเป็นข้อมูลที่ผู้ควบคุมความลับทางการค้าได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาไว้เป็นความลับ ฉะนั้น ข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อ ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ลูกค้าตามฟ้องจะถือเป็นความลับทางการค้าได้ จึงต้องมีลักษณะครบถ้วนตามที่มาตรา ๓ กำหนดดังกล่าว โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายกล่าวอ้างมีภาระการพิสูจน์ให้เห็นว่ารายชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าเป็นความลับทางการค้าอย่างไร เมื่อข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เปิดเผยอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อ ที่อยู่ หรือหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้า
โดยไม่ปรากฏลักษณะพิเศษที่เป็นข้อมูลทางการค้าซึ่งยังไม่รู้จักกันโดยทั่วไปตามมาตรา ๓ ข้อมูลที่เปิดเผยอยู่ทั่วไปดังกล่าวจึงไม่เป็นความลับทางการค้า ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ต่อมาถึงการเก็บรักษาความลับ
ของโจทก์นั้น ตามทางพิจารณาโจทก์นำสืบเพียงว่า มาตรการที่โจทก์ใช้เพื่อรักษารายชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าไว้เป็นความลับคือมอบหมายให้จำเลยเป็นผู้รักษาข้อมูลดังกล่าวโดยกำหนดให้จัดเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีรหัสผ่านเป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูล จำเลยนำสืบต่อสู้ตามบันทึกถ้อยคำ
ยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของพยานว่า ข้อมูลของลูกค้าที่จำเลยทำการขายประกันให้ในแต่ละเดือนนอกจากจัดเก็บไว้ที่คอมพิวเตอร์แล้ว จำเลยยังจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าที่จำเลยได้ทำการขายในแต่ละเดือน
ไว้ในแฟ้มเอกสารการทำงานด้วย ซึ่งเจือสมกับข้อที่โจทก์ขอให้จำเลยส่งคืนเอกสารงานประกันภัย
ต่อทะเบียนรถยนต์ พรบ. อันแสดงให้เห็นว่าในการทำงานของจำเลยนั้น นอกจากจำเลยจัดเก็บข้อมูล
ของลูกค้าที่จำเลยทำการขายประกันให้ในแต่ละเดือนไว้ที่คอมพิวเตอร์แล้ว จำเลยยังจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าที่จำเลยได้ทำการขายในแต่ละเดือนไว้ในแฟ้มเอกสารการทำงานด้วย ทั้งนายเอก กรรมการโจทก์
ยังเบิกความตามบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของพยานว่า ภายหลังที่จำเลยลาออก
โจทก์ได้รับแจ้งจากบริษัทประกันภัยว่ามีลูกค้าของโจทก์ชื่อนางสาวเกศินีและนางสาวทัศนีย์ขอแจ้งโอนย้ายเปลี่ยนตัวแทนนายหน้าเป็นจำเลย ซึ่งขณะที่จำเลยยังเป็นพนักงานของโจทก์ จำเลยเคยขายประกันภัยรถยนต์ให้นางสาวเกศินีและนางสาวทัศนีย์ อันแสดงว่าโจทก์มีข้อมูลรายชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์
ของลูกค้าตามฟ้องอยู่อย่างละเอียด จึงสามารถตรวจสอบได้ว่าลูกค้าที่ขอแจ้งโอนย้ายเปลี่ยนตัวแทนนายหน้านั้นเป็นลูกค้าที่เคยซื้อประกันภัยกับโจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ฉบับใด การที่โจทก์มีข้อมูลดังกล่าวทั้งที่อ้างว่าจำเลยเป็นผู้จัดเก็บและรักษาข้อมูลดังกล่าวเพียงผู้เดียวและจำเลยไม่ยอมส่งคืนให้โจทก์ จึงแสดงให้เห็นว่าข้อมูลรายชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าตามฟ้องนั้นมิได้มีเพียงที่จัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ การที่ข้อมูลลูกค้าดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเดียวแต่มีการจัดเก็บไว้ในเอกสารที่ไม่ปรากฏว่ามีมาตรการป้องกันการเข้าถึงหรือจัดเก็บไว้ในที่เฉพาะ เช่นนี้พนักงานอื่นนอกจากจำเลยย่อมสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย ดังเห็นได้จากการที่จำเลยทำหนังสือชี้แจงโจทก์เกี่ยวกับเอกสาร
งานประกันภัย ต่อทะเบียนรถยนต์ พรบ. ในการชี้แจงข้อที่ ๓ ว่า เอกสารงานประกันภัยและต่อทะเบียนรถยนต์ จำเลยไม่ได้เอามาด้วยคงอยู่ที่บริษัท เอกสารที่ร้องขอนี้สามารถขอกับคุณนงลักษณ์ เพราะเป็นคนที่ส่งเอกสารให้จำเลย ซึ่งโจทก์เองก็มิได้โต้แย้ง ดังนี้ จึงแสดงว่าโจทก์ไม่ได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาข้อมูลรายชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าตามฟ้องไว้เป็นความลับ ข้อมูลดังกล่าวจึงมิใช่ความลับทางการค้าตามพระราชบัญญัติความลับทางการค้า พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญา
และการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์โจทก์ข้ออื่นอีก เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง

         พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

(เทอดชัย ธนะพงศ์พร – กรกันยา สุวรรณพานิช – ปัทมา ทุมมา จรรยาพูน)

สุธรรม สุธัมนาถพงษ์ - ย่อ

ปัทมา ทุมมา จรรยาพูน - ตรวจ