คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 3823/2566 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โจทก์
ผู้อำนวยการสำนักงานประจำ
ศาลแขวงปทุมวัน เจ้าหนี้
จ่าสิบเอกหรือนายเฉลิมศักดิ์ ทองวิลัย จำเลย
ป.พ.พ. มาตรา ๑๙๓/๓๒
ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง
ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕ , ๑๑๙ วรรคหนึ่ง , ๑๙๘ วรรคหนึ่ง
พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๔ (๑)
เมื่อลูกหนี้ผิดสัญญาประกันไม่ส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลตามกำหนดนัด ศาลแขวงปทุมวันมีอำนาจสั่งบังคับตามสัญญาประกันได้โดยมิต้องฟ้อง ซึ่งศาลแขวงปทุมวันมีคำสั่งปรับลูกหนี้
ที่ผิดสัญญาประกันเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คำสั่งปรับนายประกันจึงถือเสมือน
เป็นคำพิพากษาของศาลที่พิพากษาให้ลูกหนี้ใช้เงินตามสัญญาประกัน และลูกหนี้ซึ่งเป็น
ฝ่ายถูกบังคับตามสัญญาประกันย่อมมีอำนาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลแขวงปทุมวันได้ตาม
ป.วิ.อ. มาตรา ๑๑๙ วรรคหนึ่ง ทั้งนี้ การยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวมีกำหนดเวลา ๑ เดือน นับแต่วันอ่าน หรือถือว่าได้อ่านคำสั่งให้คู่ความฝ่ายที่อุทธรณ์ฟัง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๙๘ วรรคหนึ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่าลูกหนี้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว คำสั่งของศาลแขวงปทุมวันที่สั่งปรับลูกหนี้ซึ่งเป็นนายประกันจึงถึงที่สุดในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕
เมื่อสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้เกิดขึ้นเนื่องจากลูกหนี้ผิดสัญญาประกันตัวจำเลยในคดีอาญาและคำสั่งดังกล่าวเสมือนเป็นคำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุด จึงมีกำหนดอายุความ ๑๐ ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๙๓/๓๒ เจ้าหนี้นำมูลหนี้ดังกล่าวมายื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เมื่อวันที่
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ยังไม่พ้นกำหนด ๑๐ ปี มูลหนี้ค่าปรับตามสัญญาประกันตัวจำเลย
ในคดีอาญาที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จึงยังไม่ขาดอายุความ ไม่ต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้
ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา 94 (1)
______________________________
คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาด
เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ และพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๖
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ผิดสัญญาประกันตัวจำเลยในคดีอาญา เป็นเงิน ๒๔๒,๕๗๑.๒๔ บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ไม่มีประกัน ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 104 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้เสียทั้งสิ้น
ตามมาตรา ๑๐๗ (เดิม) (ที่ถูก มาตรา ๑๐๖ วรรคสอง (๑) (ที่แก้ไขใหม่))
เจ้าหนี้ยื่นคำร้อง ขอให้มีคำสั่งกลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามคำขอรับชำระหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งกลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ โดยอนุญาตให้เจ้าหนี้
ได้รับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามสัญญาประกันของศาลแขวงปทุมวันเป็นเงิน ๒๔๒,๕๗๑.๒๔ บาท ตามคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังยุติในชั้นนี้ว่า เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ ลูกหนี้ทำสัญญาประกันตัวนายสมควรหรืออนันตพงษ์ จำเลยในคดีอาญา
ของศาลแขวงปทุมวัน จนกว่าคดีเสร็จสิ้นการพิจารณาชั้นอุทธรณ์ มีข้อตกลงกรณีจำเลยไม่มาศาลตามนัดยอมรับผิดชอบใช้เงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ศาลแขวงปทุมวันกำหนดวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ต่อมาวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันภายหลังจากศาลแขวงปทุมวันได้ออกหมายจับจำเลย
ในคดีอาญามาฟังคำพิพากษาแล้วไม่ได้ตัวจำเลยมาศาลภายใน ๑ เดือน นับแต่วันออกหมายจับ
จึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย ในวันเดียวกันศาลแขวงปทุมวันมีคำสั่งปรับลูกหนี้ซึ่งผิดสัญญาประกัน
ไม่ส่งตัวจำเลยเต็มตามสัญญา และออกคำบังคับให้ลูกหนี้นำค่าปรับมาชำระภายใน ๓๐ วัน ต่อมาวันที่
๑๙ มกราคม ๒๕๕๕ ศาลแขวงปทุมวันออกหมายบังคับคดีแต่งตั้งเจ้าหนี้ให้เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่
ในการบังคับตามสัญญาประกันเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากการเฉลี่ยทรัพย์และการบังคับคดีจากทรัพย์สินของลูกหนี้ได้บางส่วน ลูกหนี้ยังคงค้างชำระค่าปรับเป็นเงิน ๒๔๒,๕๗๑.๒๔ บาท ต่อมาวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด ในวันที่
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เจ้าหนี้นำมูลหนี้ค่าปรับตามสัญญาประกันตัวจำเลยในคดีอาญาที่ลูกหนี้
ยังคงค้างชำระจำนวนดังกล่าวมายื่นคำขอรับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ไม่มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๔
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า มูลหนี้ค่าปรับ
ตามสัญญาประกันตัวจำเลยในคดีอาญาที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาล ศาลมีอำนาจสั่งบังคับตามสัญญาประกันหรือตามที่ศาลเห็นสมควรโดยมิต้องฟ้อง ทั้งนี้
ศาลอาจสั่งงดการบังคับตามสัญญาประกันหรือลดจำนวนเงินที่ต้องใช้ตามสัญญาประกันก็ได้ โดยคำนึงถึง
ความพยายามของผู้ประกันในการติดตามตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หลบหนี รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้น
ว่ามีมากน้อยเพียงใดประกอบด้วย และเมื่อศาลสั่งประการใดแล้วฝ่ายผู้ถูกบังคับตามสัญญาประกัน
หรือพนักงานอัยการมีอำนาจอุทธรณ์ได้ คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด” จากบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อลูกหนี้ผิดสัญญาประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลตามกำหนดนัด ศาลแขวงปทุมวันมีอำนาจสั่งบังคับ
ตามสัญญาประกันได้โดยมิต้องฟ้อง ซึ่งศาลแขวงปทุมวันมีคำสั่งปรับลูกหนี้ที่ผิดสัญญาประกันเมื่อวันที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คำสั่งปรับนายประกันของศาลแขวงปทุมวันจึงถือเสมือนเป็นคำพิพากษา
ของศาลที่พิพากษาให้ลูกหนี้ใช้เงินตามสัญญาประกัน และลูกหนี้ซึ่งเป็นฝ่ายถูกบังคับตามสัญญาประกันย่อมมีอำนาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลแขวงปทุมวันได้ตามบทบัญญัติดังกล่าว ทั้งนี้ การยื่นอุทธรณ์
คำสั่งดังกล่าวมีกำหนดเวลา ๑ เดือน นับแต่วันอ่าน หรือถือว่าได้อ่านคำสั่งให้คู่ความฝ่ายที่อุทธรณ์ฟัง
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๘ วรรคหนึ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่าลูกหนี้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว คำสั่งของศาลแขวงปทุมวันที่สั่งปรับลูกหนี้ซึ่งเป็นนายประกันจึงถึงที่สุดในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ เมื่อสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้เกิดขึ้นเนื่องจากลูกหนี้ผิดสัญญาประกันตัวจำเลยในคดีอาญาและคำสั่งดังกล่าวเสมือนเป็นคำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุด จึงมีกำหนดอายุความ ๑๐ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๓๒ เจ้าหนี้นำมูลหนี้ดังกล่าวมายื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ยังไม่พ้นกำหนด ๑๐ ปี มูลหนี้ค่าปรับ
ตามสัญญาประกันตัวจำเลยในคดีอาญาที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จึงยังไม่ขาดอายุความ ไม่ต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา 94 (1) ที่ศาลล้มละลายกลาง
มีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ดังกล่าวจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้นั้น ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
เห็นพ้องด้วยในผล อุทธรณ์ข้อนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฟังไม่ขึ้น ส่วนอุทธรณ์ข้ออื่นไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปจึงไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.
(สมจิตร์ ปอพิมาย - ฐานิต ศิริจันทร์สว่าง - นพร เพชรคุณ)
นราธิป บุญญพนิช - ย่อ
สุรัชฎ์ เตชัสวงศ์ - ตรวจ