คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 4531/2566 บริษัทบริหารสินทรัพย์ เพิร์ล จำกัด      โจทก์

                                                                    เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์            ผู้คัดค้าน

                                                                    บริษัทภูมิพลัง จำกัด กับพวก           จำเลย

พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๕, ๙๖ (๓), ๑๓๕ (๑), ๑๕๕

         เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสี่ล้มละลายจนศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
ของจำเลยทั้งสี่เด็ดขาด โจทก์จึงมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์มาตั้งแต่แรก และเมื่อผู้คัดค้านมีคำสั่งให้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์วางเงินประกันค่าใช้จ่าย โจทก์ก็ได้วางเงินประกันค่าใช้จ่าย ๑๐
,๐๐๐ บาท
ต่อผู้คัดค้านแล้วตามหน้าที่ของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ตามมาตรา ๑๕๕  แห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483  แม้โจทก์จะมิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา ๙๖ (๓) โดยขอใช้สิทธิบังคับเอาแก่หลักประกัน
ในคดีแพ่งตามมาตรา ๙๕ แต่โจทก์ก็มิได้ถอนตัวจากการเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ และมิใช่กรณีที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ไม่ช่วยหรือยอมเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายหรือวางเงินประกันตามที่ผู้คัดค้านเรียกร้อง ผู้คัดค้านยังคงสามารถดำเนินการให้ได้ผลเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย จึงไม่ใช่เหตุอย่างหนึ่งอย่างใดที่ศาลจะมีอำนาจสั่งยกเลิกการล้มละลายตามมาตรา ๑๓๕ (๑) ได้ การที่
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ตามที่ผู้คัดค้านรายงานจึงเป็น
การสั่งไปโดยผิดหลง ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ตามมาตรา ๑๓๕ (๑) และมีคำสั่งใหม่เป็นไม่อนุญาตให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่นั้น
ชอบแล้ว

______________________________

         คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสี่เด็ดขาดเมื่อวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ต่อมามีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย
พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๓๕ (๑) เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕

         โจทก์ยื่นคำร้อง ขอให้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่

         ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง

         ศาลล้มละลายกลางให้เพิกถอนคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ แล้วมีคำสั่งใหม่เป็นว่า
ไม่อนุญาตให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ตามคำขอของผู้คัดค้าน ฉบับลงวันที่ 1 กันยายน 2565 ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

         ผู้คัดค้านอุทธรณ์ โดยได้รับอนุญาตจากศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ

            ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสี่เด็ดขาดเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ โจทก์ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิ
เหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ ๑ ตามมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โจทก์วางเงินประกันค่าใช้จ่าย ๑๐,๐๐๐ บาท ตามคำสั่งของผู้คัดค้านแล้ว เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ผู้คัดค้านนัดประชุมเจ้าหนี้ครั้งอื่น (ที่เลื่อนมาครั้งที่ ๑) โดยแจ้งแก่ที่ประชุมเจ้าหนี้ว่า เนื่องจากเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันตามมาตรา 95
โจทก์จึงไม่ใช่เจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย และเจ้าหนี้ที่มาประชุมในวันดังกล่าวต่างแถลงไม่ประสงค์รับเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ใหม่แทนเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์เดิม ผู้คัดค้านถือว่าไม่มีเจ้าหนี้รายใดยินยอมเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์เพื่อช่วยเหลือผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านจึงรายงานศาลล้มละลายกลางขอให้มี
คำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ตามมาตรา ๑๓๕ (๑) ส่วนโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ จากนั้นวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ตามรายงานของผู้คัดค้าน ต่อมา
ศาลล้มละลายกลางพิจารณาคำร้องของโจทก์แล้ว ให้เพิกถอนคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ แล้วมีคำสั่งใหม่เป็นว่า ไม่อนุญาตให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่

         ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้คัดค้านมีว่า คำสั่งของศาลล้มละลายกลางที่เพิกถอนคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๓๕ (๑)
แล้วมีคำสั่งใหม่เป็นว่า ไม่อนุญาตให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่นั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
เห็นว่า ตามมาตรา ๑๓๕ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 บัญญัติว่า “เมื่อผู้มีส่วนได้เสีย
หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำขอ ศาลมีอำนาจสั่งยกเลิกการล้มละลายได้ ถ้าปรากฏเหตุอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (๑) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจดำเนินการให้ได้ผลเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
เพราะเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ไม่ช่วยหรือยอมเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายหรือวางเงินประกันตามที่
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกร้อง และไม่มีเจ้าหนี้อื่นสามารถและเต็มใจกระทำการดังกล่าวแล้ว
ภายในกำหนดเวลาหนึ่งเดือนนับแต่วันที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ขัดขืนหรือละเลยนั้น…” เมื่อบริษัท
บริหารสินทรัพย์ เพิร์ล จำกัด เป็นโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสี่ล้มละลาย จนศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสี่เด็ดขาด บริษัทบริหารสินทรัพย์ เพิร์ล จำกัด จึงมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์
มาตั้งแต่แรก และเมื่อผู้คัดค้านมีคำสั่งให้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์วางเงินประกันค่าใช้จ่าย โจทก์ก็วางเงินประกันค่าใช้จ่าย ๑๐,๐๐๐ บาท ต่อผู้คัดค้านแล้วตามหน้าที่ของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ตามมาตรา ๑๕๕
แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 แม้โจทก์จะมิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา ๙๖ (๓)
โดยขอใช้สิทธิบังคับเอาแก่หลักประกันในคดีแพ่งตามมาตรา ๙๕ แต่โจทก์ก็มิได้ถอนตัวจากการเป็นเจ้าหนี้
ผู้เป็นโจทก์ และมิใช่กรณีที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ไม่ช่วยหรือยอมเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่าย
หรือวางเงินประกันตามที่ผู้คัดค้านเรียกร้อง ผู้คัดค้านยังคงสามารถดำเนินการให้ได้ผลเพื่อประโยชน์
แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย จึงไม่ใช่เหตุอย่างหนึ่งอย่างใดที่ศาลจะมีอำนาจสั่งยกเลิกการล้มละลาย
ตามมาตรา ๑๓๕ (๑) ได้ การที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ตามที่
ผู้คัดค้านรายงานจึงเป็นการสั่งไปโดยผิดหลง ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งยกเลิก
การล้มละลายของจำเลยทั้งสี่ ตามมาตรา ๑๓๕ (๑) และมีคำสั่งใหม่เป็นไม่อนุญาตให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยทั้งสี่นั้น ชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น

         พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

 (ศักดิ์เสถียร  สวนสุข - เอื้อน  ขุนแก้ว - วาสนา บุญทรงสันติกุล)

นราธิป  บุญญพนิช - ย่อ

                                                                                                                          สุรัชฎ์  เตชัสวงศ์ - ตรวจ