คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 15/2560    นายไพโรจน์ ตั้งอาษาศิลป์                โจทก์

                                                                   บริษัทวิน วินเน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด   จำเลย

พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๖, มาตรา ๓๑

ป.วิ.พ. มาตรา ๒๓

         พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๒๖ บัญญัติ
เรื่องการขยายระยะเวลาไว้เป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำ ป.วิ.พ. มาตรา ๒๓ มาอนุโลมใช้
ตามมาตรา ๓๑ แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ ได้ ซึ่งมาตรา ๒๖
แห่งกฎหมายดังกล่าว บัญญัติว่าระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือตามที่
ศาลแรงงานได้กำหนด ศาลแรงงานมีอำนาจย่นหรือขยายได้ตามความจำเป็น และเพื่อประโยชน์
แห่งความยุติธรรม บทบัญญัติดังกล่าวมิได้กำหนดให้คู่ความต้องยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานก่อนสิ้นสุดระยะเวลาตามที่กำหนดไว้และจะต้องมีพฤติการณ์พิเศษหรือจะต้องมีเหตุสุดวิสัยอันไม่อาจ
ก้าวล่วงได้ดังเช่นบัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา ๒๓ ไม่ ดังนั้น แม้ระยะเวลายื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแรงงานกลางในคดีนี้จะสิ้นสุดลงไปแล้ว โจทก์ก็ยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลา
ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแรงงานกลางได้ ส่วนศาลแรงงานกลางจะมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์หรือไม่ เพียงใด ก็ต้องพิจารณาถึงความจำเป็นหรือเหตุอันจำเป็นของโจทก์ว่ามีจริงหรือไม่ เพียงใดและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งในคำร้องของโจทก์ว่า ขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์เกินกำหนด จึงให้ยกคำร้องนั้นไม่ถูกต้อง เพราะถ้าหากโจทก์ไม่อาจจัดเรียงอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลแรงงานกลางได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับสำเนาคำพิพากษา
และสรรพเอกสารที่ขอคัดถ่ายอยู่ย่อมเป็นความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมก็สมควรขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์ได้ แต่การที่โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำพิพากษาและสรรพเอกสารจากศาลแรงงานกลาง จึงไม่อาจทำอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จได้ทันภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดตามที่โจทก์อ้างหรือไม่นั้น เป็นข้อเท็จจริงซึ่งศาลแรงงานกลางต้องไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไป

_____________________________

         คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย ๑๔,๔๘๖,000 บาท ค่าชดเชย ๑,๖๐๐,000 บาท ค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 30 วัน เป็นเงิน ๒0๐,000 บาท ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ๑,๖00,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี
ของค่าจ้างและค่าชดเชยดังกล่าว กับขอให้จำเลยจ่ายเงินเพิ่มร้อยละ ๑๕ ของเงินที่ค้างจ่ายดังกล่าว
ทุกระยะเวลา ๗ วัน ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย ๑,๑๖0,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

         ต่อมาวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๙ โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์

         ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่าศาลพิพากษา วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ โดยถือว่าอ่าน
ตามกฎหมายสำหรับโจทก์ครบกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ โจทก์ขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์เกินกำหนดจึงให้ยกคำร้อง

         โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

         ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์
ของโจทก์ว่า คำสั่งของศาลแรงงานกลางที่ให้ยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของโจทก์
ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน
พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๖ บัญญัติเรื่องการขยายระยะเวลาไว้เป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ มาอนุโลมใช้ตามมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง
ศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้ซึ่งมาตรา ๒๖ แห่งกฎหมายดังกล่าวบัญญัติว่าระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่ศาลแรงงานได้กำหนดศาลแรงงานมีอำนาจ
ย่นหรือขยายได้ตามความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม บทบัญญัติดังกล่าวมิได้กำหนดให้คู่ความต้องยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานก่นสิ้นสุดระยะเวลาตามที่กำหนดไว้และจะต้องมีพฤติการณ์พิเศษหรือจะต้องมีเหตุสุดวิสัยอันไม่อาจก้าวล่วงได้ดังเช่นบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ ไม่ ดังนั้น แม้ระยะเวลายื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแรงงานกลางในคดีนี้จะสิ้นสุดลงไปแล้ว โจทก์ก็ยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ต่อศาลแรงงานกลางได้ ส่วนศาลแรงงานกลาง
จะมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์หรือไม่ เพียงใด ก็ต้องพิจารณาถึงความจำเป็น
หรือเหตุอันจำเป็นของโจทก์ว่ามีจริงหรือไม่เพียงใด และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม การที่
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งในคำร้องของโจทก์ว่าขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์เกินกำหนด จึงให้ยกคำร้องนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าหากโจทก์ไม่อาจจัดเรียงอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลแรงงานกลางได้ เนื่องจาก
ยังไม่ได้รับสำเนาคำพิพากษาและสรรพเอกสารที่ขอคัดถ่ายอยู่ ย่อมเป็นความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมก็สมควรขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้โจทก์ได้ แต่การที่โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนา
คำพิพากษาและสรรพเอกสารจากศาลแรงงานกลาง จึงไม่อาจทำอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จได้ทันภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดตามที่โจทก์อ้างหรือไม่นั้น เป็นข้อเท็จจริงซึ่งศาลแรงงานกลาง
ต้องไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไปที่ศาลแรงงานกลางยกคำร้องของโจทก์โดยมิได้ไต่สวนให้ได้ความก่อนนั้น
ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีแรงงาน อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น

         พิพากษายกคำสั่งของศาลแรงงานกลางที่ยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของโจทก์
ฉบับลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๙ ให้ศาลแรงงานกลางไต่สวนเหตุแห่งความจำเป็นตามคำร้องของโจทก์แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีต่อไป

(นาวี  สกุลวงศ์ธนา – ไกรยง  ติวราภรณ์ศานติ์ – นงนภา  จันทรศักดิ์ ลิ่มไพบูลย์)

ภูวภัทร สุวรรณาลัย - ย่อ

ธัชวุทธิ์  พุทธิสมบัติ - ตรวจ