คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 1816/2560   นายภูวนาท  อิทธิมานะ กับพวก     โจทก์

                                                                         ธนาคารออมสิน                      จำเลย

 

พ.ร.บ. แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 มาตรา 6, 13, 25, 26, 27, 28

 

            ประกาศและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จำเลยออกตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดประจำปี 2559 เป็นการกำหนดเงื่อนไขการออกจากงาน จึงเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง

          แม้ประกาศและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ตามโครงการดังกล่าวจะเป็นการแก้ไขข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างก็ตาม แต่เมื่อการจัดตั้งโครงการดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อให้ทางเลือกแก่ลูกจ้างจำเลยที่ประสงค์จะเกษียณอายุก่อนกำหนดสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับผลประโยชน์ต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เป็นการตอบแทน ส่วนผู้สมัครที่ไม่ได้รับการคัดเลือกยังคงทำงานกับจำเลยอยู่เช่นเดิม ประกาศและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จำเลยออกตามโครงการจึงเป็นการแก้ไขข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เป็นคุณแก่ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการรวมถึงโจทก์ทั้งแปดซึ่งไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างหรือยื่นข้อเรียกร้องเป็นหนังสือตาม พ.ร.บ. แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 มาตรา 25 ถึงมาตรา 27

            เมื่อคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดได้ โดยให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งพิจารณาเงื่อนไขอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ถือได้ว่าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของจำเลยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีตามกฎหมายแล้ว

______________________________

 

          โจทก์ทั้งแปดฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยพิจารณาคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 ใหม่ รับโจทก์ทั้งแปดเข้าร่วมโครงการ หากไม่ยอมรับโจทก์ทั้งแปดเข้าร่วมโครงการ ขอให้เพิกถอนประกาศรายชื่อและยกเลิกโครงการทั้งหมด และให้จำเลยปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 มาตรา 13, 25, 26, 27 และพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 มาตรา 14, 16

          จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

          ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง

          โจทก์ทั้งแปดอุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทรัฐวิสาหกิจจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารออมสิน พ.ศ. 2489 โจทก์ทั้งแปดเป็นลูกจ้างจำเลย เมื่อประมาณกลางปี 2558 จำเลยออกประกาศ เรื่อง โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่พนักงานที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนวิธี
การทำงานให้เข้ากับเทคโนโลยีและระบบงานใหม่ของจำเลย รวมทั้งพนักงานที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เจ็บป่วย หรือเหนื่อยล้าจากการทำงาน ซึ่งมีผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน ตลอดจนพนักงานที่ต้องการเกษียณอายุก่อนกำหนดเพื่อไปประกอบอาชีพอื่น โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามประกาศของจำเลย โครงการดังกล่าวกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการไว้ 600 คน แต่มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากถึง 992 คน ซึ่งรวมถึงโจทก์ทั้งแปดด้วย ต่อมาปรากฏว่าโจทก์ทั้งแปดไม่ได้รับการคัดเลือกซึ่งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกให้เหตุผลว่าคุณสมบัติของโจทก์ทั้งแปดไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่จำเลยกำหนดไว้ แล้ววินิจฉัยว่า ประกาศ เรื่อง โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 หนังสือชี้แจงการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการและหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเพิ่มเติม ไม่ใช่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง การที่จำเลยออกประกาศ เรื่ อง โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 หนังสือชี้แจงการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการและหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเพิ่มเติม จึงชอบด้วยกฎหมายและไม่ถือเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ทั้งการพิจารณาคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดเพิ่มเติม การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกจึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ มีความเป็นธรรม และตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการแล้ว

          คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งแปดประการแรกว่า ประกาศ เรื่อง โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 หนังสือชี้แจงการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการและหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเพิ่มเติมชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 มาตรา 6 ให้คำนิยามคำว่า “สภาพการจ้าง” หมายความว่า หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ้างหรือการทำงาน กำหนดวันและเวลาทำงาน ค่าจ้าง สวัสดิการ การเลิกจ้าง หรือประโยชน์อื่นของนายจ้างหรือลูกจ้าง อันเกี่ยวกับการจ้าง หรือการทำงาน ดังนั้น เมื่อหลักเกณฑ์ตามประกาศ เรื่อง โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 หนังสือชี้แจงการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการและหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเพิ่มเติม เป็นเงื่อนไขการออกจากงาน จึงเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า หลักเกณฑ์ตามประกาศ เรื่อง โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 หนังสือชี้แจงการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการและหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเพิ่มเติม ไม่เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างนั้น ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษไม่เห็นพ้องด้วย แต่อย่างไรก็ดีแม้ประกาศและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จำเลยออกตามโครงการนั้นจะเป็นการแก้ไขข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างก็ตาม แต่เมื่อการจัดตั้งโครงการดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อให้เป็นทางเลือกแก่ลูกจ้างจำเลยที่ประสงค์จะเกษียณอายุก่อนกำหนดสมัครเข้าร่วมโครงการโดยผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับผลประโยชน์ต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เป็นการตอบแทน ส่วนผู้สมัครที่ไม่ได้รับการคัดเลือกยังคงทำงานกับจำเลยอยู่เช่นเดิม ประกาศและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จำเลยออกตามโครงการจึงเป็นการแก้ไขข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เป็นคุณแก่ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการรวมถึงโจทก์ทั้งแปดซึ่งไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างหรือยื่นข้อเรียกร้องเป็นหนังสือตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 มาตรา 25 ถึงมาตรา 27 ทั้งคณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติเห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดได้ สำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม ตามสำเนาหนังสือของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ นร 0504/ว 27 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547 จึงถือได้ว่า โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของจำเลยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามกฎหมายแล้ว ประกาศ เรื่อง โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 หนังสือชี้แจงการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการและหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเพิ่มเติมของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งแปดข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

          คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งแปดประการต่อไปว่า การคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี 2559 ชอบแล้วหรือไม่ เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าวเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยแล้วว่าการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกเป็นไปตามหลักเกณฑ์ มีความเป็นธรรม และตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าวแล้ว อันเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษไม่รับวินิจฉัย

          พิพากษายืน.

 

(เฉลิมพงศ์  ขันตี – ยิ่งลักษณ์  สุขวิสิฏฐ์ – สมเกียรติ  คูวัธนไพศาล)

 

กรรณิกา  อัศวเมธา - ย่อ

สุโรจน์  จันทรพิทักษ์ - ตรวจ