คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 1116/2560   นายกฤษฎิ์  วิมไตรเมต              โจทก์

                                                                        บริษัทปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด

                                                                         (มหาชน) กับพวก                    จำเลย

 

พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง

 

          คดีก่อนศาลฎีกาวินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง และคดีถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์ฟ้องร้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้อีกโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีก่อน จึงเป็นการฟ้องซ้ำซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148 ประกอบ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 การที่โจทก์อุทธรณ์โดยกล่าวอ้างว่าศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานซึ่งพิจารณาคดีก่อนได้ถูกงดการพิจารณาตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย มาตรา 90/12 (1) และศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายให้สิทธิโจทก์นำคดีเดิมที่ถึงที่สุดไปแล้วกลับมาฟ้องเป็นคดีใหม่ที่ศาลแรงงานกลางไม่ถือว่าฟ้องซ้ำ โดยไม่ปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงดังที่โจทก์กล่าวอ้าง นั้น จึงเป็นการอุทธรณ์ที่กล่าวอ้างข้อเท็จจริงที่ไม่มีอยู่จริงและเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง อันเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ทำนองว่ามีหลักฐานพยานหลักฐานใหม่ที่มีน้ำหนักให้รับฟังนั้นก็เป็นการอุทธรณ์เกี่ยวเนื่องมาจากอุทธรณ์ข้างต้น เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงเช่นกัน ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง

______________________________

 

          โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ๕๒,๒๖๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันเลิกจ้างคือวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๗ และค่าเสียหายที่กระทำละเมิดต่อโจทก์ ๘,๔๔๒,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

          จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง

          ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง

          โจทก์อุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่า คดีก่อนศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ ๑๒๘๑๙/๒๕๕๓ วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง และคดีถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์ได้ฟ้องร้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้อีกโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีก่อนว่าการเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ และโจทก์มีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีหรือไม่ จึงเป็นการฟ้องซ้ำซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๘ ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๓๑ ดังนั้น ที่โจทก์อุทธรณ์โดยกล่าวอ้างข้อเท็จจริงว่าศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานซึ่งพิจารณาคดีก่อนได้ถูกงดการพิจารณาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๐/๑๒ (๑) โดยไม่ปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงดังที่โจทก์อุทธรณ์ดังกล่าว และที่อุทธรณ์อ้างว่าศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายให้สิทธิโจทก์นำคดีเดิมที่ถึงที่สุดไปแล้วกลับมาฟ้องเป็นคดีใหม่ที่ศาลแรงงานกลางได้โดยไม่ถือว่าเป็นการฟ้องซ้ำนั้นก็ไม่ปรากฏว่าศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายมีคำสั่งในทำนองนั้น จึงเป็นการอุทธรณ์โดยกล่าวอ้างข้อเท็จจริงที่ไม่มีอยู่จริงและเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายดังที่โจทก์อ้าง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ส่วนอุทธรณ์ของโจทก์ที่กล่าวอ้างการสืบพยานในสำนวนคดีใหม่ว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่มีน้ำหนักให้รับฟังนั้นก็เป็นการอุทธรณ์ที่เกี่ยวเนื่องมาจากอุทธรณ์ทั้งสองประการข้างต้นจึงเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเช่นกัน อุทธรณ์ทั้งหมดของโจทก์ล้วนแต่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษไม่รับวินิจฉัย

          พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์.

 

(ดาราวรรณ  ใจคำป้อ – วิเชียร  แสงเจริญถาวร – ยิ่งศักดิ์  โอฬารสกุล)

 

ฐิติ  สุเสารัจ - ย่อ

สุโรจน์  จันทรพิทักษ์ - ตรวจ