คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 317/2563     มหาวิทยาลัย ท.                        โจทก์

                                                                        บริษัท น.                               จำเลย

 

ป.พ.พ. มาตรา 171

            ตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเทคโนโลยีตู้แดงอัจฉริยะ ข้อ ๒.๓ ระบุว่า จำเลยต้องทำการตลาด/ติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะภายในเวลา ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญา หากจำเลยไม่ทำการตลาด/ติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยต้องจ่ายค่าเสียโอกาสให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท และโจทก์มีสิทธิขอทบทวนสัญญา เมื่อพิจารณาลักษณะโดยทั่วไปของสัญญาแล้ว เทคโนโลยีตู้แดงอัจฉริยะพุ่งเป้าไปสู่การทำการตลาดกับหน่วยงานราชการที่ต้องมีการตระเวนตรวจตราความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม ซึ่งการเสนอโครงการไปตลอดจนถึง
การเข้าทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานราชการ และการปฏิบัติงานตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง
กับหน่วยงานราชการจนสัมฤทธิ์ผล ย่อมต้องมีรายละเอียดขั้นตอนเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่การขออนุมัติโครงการและงบประมาณ จนถึงการตรวจรับงานจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่น่าเชื่อว่าคู่สัญญาจะมีความมุ่งประสงค์ให้การติดตั้งตู้แดงอัจฉริยะสัมฤทธิ์ผลได้ภายในระยะเวลา ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญาเพียงอย่างเดียว จากข้อความในข้อสัญญาตามที่ระบุย่อมได้ความชัดแจ้งแล้วว่า การดำเนินการตามสัญญาภายในเวลา ๒ ปี จะเป็นการทำการตลาดประการหนึ่ง หรือเป็นการติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะอีกประการหนึ่งก็ได้  มิใช่ทั้งสองประการ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเทคโนโลยีตู้แดงอัจฉริยะทำขึ้นเมื่อวันที่
๘ มกราคม ๒๕๕๖ ครบกำหนดระยะเวลา ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญา คือ วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๘  เมื่อจำเลยนำสืบว่า จำเลยได้นำเสนอรายละเอียดโครงการติดตั้งตู้แดงอัจฉริยะแก่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาและนำเสนอโครงการแก่เทศบาลเมืองนครราชสีมาแล้ว จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่า จำเลยเริ่มทำการตลาดตามสัญญาแล้ว โดยจำเลยมีหนังสือชี้แจงการทำตลาดตู้แดงอัจฉริยะ
ของจำเลยแก่โจทก์ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๘ ซึ่งในชั้นพิจารณาของโจทก์เกี่ยวกับหนังสือชี้แจง
การทำการตลาดดังกล่าว ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใด ๆ เลยว่า โจทก์ยกเลิกสัญญาเพราะจำเลยละเลย
ไม่ทำการตลาดอย่างแท้จริง ตามพฤติการณ์แห่งคดีน่าเชื่อว่า จำเลยได้มีการทำการตลาดแล้ว
การที่จำเลยเริ่มทำการตลาดและติดต่อหน่วยงานราชการภายในกำหนดระยะเวลา ๒ ปี นับจาก
วันลงนามในสัญญา แม้ว่าจะยังไม่ดำเนินการไปถึงขั้นตอนการติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะก็ตาม
ย่อมเป็นการทำตลาดตามความหมายในข้อสัญญาแล้ว เมื่อเริ่มมีการทำการตลาดภายในกำหนดเวลาตามสัญญา แต่การดำเนินงานไม่คืบหน้าเพราะมีข้อขัดข้องจากเหตุอื่น กรณีจึงยังไม่อาจถือได้ว่า
จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาแต่อย่างใด

_____________________________

 

         โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน ๒๒๘,๐๖๘.๔๙ บาท
พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงินจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

         จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง

         ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงินจำนวนดังกล่าว นับแต่วันที่
๙ เมษายน ๒๕๕๙ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) ต้องไม่เกินจำนวน ๒๘,๐๖๘.๔๙ บาท ตามที่โจทก์ขอ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๕,๐๐๐ บาท

         จำเลยอุทธรณ์

         ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่คู่ความมิได้โต้แย้งกันรับฟังได้เป็นยุติว่า เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๖ จำเลย
ทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเทคโนโลยีตู้แดงอัจฉริยะอันมีลิขสิทธิ์จากโจทก์ มีกำหนดเวลา ๑๐ ปี
โดยมีข้อสัญญาตามข้อ ๒.๓ ตกลงให้จำเลยต้องทำการตลาด/ติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะภายในเวลา ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญา หากจำเลยไม่ทำการตลาด/ติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องจ่ายค่าเสียโอกาสจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่โจทก์ และข้อ ๙.๑ กำหนดว่า หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ภายหลังทำสัญญาจำเลยไม่ได้ติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะภายในเวลา ๒ ปีนับจากวันลงนามในสัญญา

         คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยประเด็นเดียวว่า จำเลยผิดสัญญา
ต่อโจทก์หรือไม่ เห็นว่า ตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในเทคโนโลยีตู้แดงอัจฉริยะ ข้อ ๒.๓ ระบุว่า จำเลย
ต้องทำการตลาด/ติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะภายในเวลา ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญา หากจำเลย
ไม่ทำการตลาด/ติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยต้องจ่ายค่าเสียโอกาส
ให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท และโจทก์มีสิทธิขอทบทวนสัญญา เมื่อพิจารณาลักษณะโดยทั่วไปของสัญญาแล้ว เทคโนโลยีตู้แดงอัจฉริยะพุ่งเป้าไปสู่การทำการตลาดกับหน่วยงานราชการ
ที่ต้องมีการตระเวนตรวจตราความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม กล่าวคือ ส่วนที่เป็นงาน
ของเจ้าพนักงานตำรวจในท้องที่ ซึ่งการเสนอโครงการไปตลอดจนถึงการเข้าทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง
กับหน่วยงานราชการ และการปฏิบัติงานตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานราชการจนสัมฤทธิ์ผล ย่อมต้องมีรายละเอียดขั้นตอนเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่การขออนุมัติโครงการและงบประมาณ จนถึง
การตรวจรับงานจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่น่าเชื่อว่าคู่สัญญาจะมีความมุ่งประสงค์ให้การติดตั้งตู้แดงอัจฉริยะสัมฤทธิ์ผลได้ภายในระยะเวลา ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญาเพียงอย่างเดียว จากข้อความ
ในข้อสัญญาตามที่ระบุย่อมได้ความชัดแจ้งแล้วว่า การดำเนินการตามสัญญาภายในเวลา ๒ ปี
จะเป็นการทำการตลาดประการหนึ่ง หรือเป็นการติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะอีกประการหนึ่ง
ก็ได้ มิใช่ทั้งสองประการ อย่างไรก็ตาม การที่เขียนไว้เช่นนั้นมีวัตถุประสงค์ให้เร่งรัดการดำเนินการ
ตามสัญญาเท่านั้น ข้อความในสัญญาจึงมีความหมายว่า การดำเนินการตามสัญญาต้องเริ่มต้นอย่างน้อยที่สุดการทำการตลาดภายใน ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญา ปัญหาต่อไปจึงมีอยู่ว่า จำเลยได้เริ่ม
ทำการตลาดภายในเวลา ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญาแล้วหรือไม่ เห็นว่า สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ
ในเทคโนโลยีตู้แดงอัจฉริยะ ทำขึ้นเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๖ ครบกำหนดระยะเวลา ๒ ปี นับจาก
วันลงนามในสัญญาตามข้อ ๒.๓ คือ วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๘ เมื่อจำเลยนำสืบว่า จำเลยได้นำเสนอรายละเอียดโครงการติดตั้งตู้แดงอัจฉริยะแก่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาและนำเสนอโครงการ
แก่เทศบาลเมืองนครราชสีมาแล้ว ข้อนำสืบดังกล่าวจึงเป็นการแสดงให้เห็นว่า จำเลยเริ่มทำการตลาด
ตามสัญญาแล้ว เช่นนี้ คำว่า “ทำการตลาด” เป็นคำที่มีความหมายที่กว้าง อันรวมถึงการประชาสัมพันธ์ การตระเตรียมงาน และการออกหาลูกค้าในตลาดอย่างจริงจัง ในข้อนี้แม้จำเลยจะไม่มีเอกสาร
แสดงการตอบรับการนำเสนอโครงการจากหน่วยงานราชการทั้งสองมาแสดงก็ตาม แต่ตามหนังสือชี้แจงการทำตลาดตู้แดงอัจฉริยะของจำเลย ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๘ จำเลยได้ชี้แจงเรื่องการทำตลาดตู้แดงอัจฉริยะกับโจทก์แล้ว โดยข้อความในหนังสืออ้างอิงถึงการทำการตลาดกับหน่วยงานราชการ
ที่เป็นหน่วยงานความมั่นคงในส่วนภูมิภาคเป็นหลัก กับได้ลงทุนจัดหาทีมงาน สถานที่ดำเนินงานในส่วนภูมิภาค และเครื่องมืออุปกรณ์ในการทำการตลาดอย่างจริงจัง ในช่วงแรกที่ทำการตลาดตั้งแต่ต้นปี
จนถึงกลางปี ๒๕๕๖ ได้มีการนำเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณตามหน่วยงานต่าง ๆ
ตามกระบวนการงบประมาณประจำปี โดยหน่วยงานต่าง ๆ จะเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ คือ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖ แต่เมื่อถึงเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ สถานการณ์ของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติ
ทางการเมือง ส่งผลต่อการทำการตลาดของจำเลยโดยตรง แต่โจทก์ก็มีหนังสือตอบกลับมาเห็นควร
ให้ยกเลิกสัญญาและชำระค่าเสียโอกาส ๒๐๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ แม้ว่าจำเลยจะได้เคยขอให้โจทก์ทบทวนการพิจารณาก็ตาม แต่โจทก์ยังคงยืนยันผลการพิจารณาเช่นเดิม เห็นได้ว่า ในชั้นพิจารณา
ของโจทก์เกี่ยวกับหนังสือชี้แจงการทำตลาดตู้แดงอัจฉริยะของจำเลย ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๘ นั้น กรณีไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใด ๆ เลยว่า โจทก์ยกเลิกสัญญาเพราะจำเลยละเลยไม่ทำการตลาด
อย่างแท้จริง ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้เพิ่งปรากฏจากคำเบิกความตอบคำถามติงของนางสาวชมพูนุท พนักงานของโจทก์ว่า โจทก์ไม่ได้รับเอกสารหรือคำยืนยันจากหน่วยงานราชการทั้งสอง เกี่ยวกับการทำการตลาดของจำเลย อีกทั้งหนังสือโต้ตอบโจทก์อ้างส่งเองเท่ากับเป็นการยอมรับข้อความในหนังสือแล้ว ตามพฤติการณ์แห่งคดีน่าเชื่อว่า จำเลยได้มีการทำการตลาดแล้วตามที่ระบุรายละเอียดในเอกสาร ข้อเท็จจริงที่จำเลยนำสืบมาพอฟังได้แล้วว่า จำเลยได้เคยนำเสนอโครงการติดตั้งตู้แดงอัจฉริยะ
แก่หน่วยงานราชการทั้งสองแห่งที่ได้กล่าวถึงในเอกสารมาก่อนแล้ว การที่จำเลยเริ่มทำการตลาด
และติดต่อหน่วยงานราชการภายในกำหนดระยะเวลา ๒ ปี นับจากวันลงนามในสัญญา
แม้ว่าจะยังไม่ดำเนินการไปถึงขั้นตอนการติดตั้งระบบตู้แดงอัจฉริยะก็ตาม ย่อมเป็นการทำตลาด
ตามความหมายในข้อสัญญาแล้ว เมื่อเริ่มมีการทำการตลาดภายในกำหนดเวลาตามสัญญา
แต่การดำเนินงานไม่คืบหน้าเพราะมีข้อขัดข้องจากเหตุอื่น กรณีจึงยังไม่อาจถือได้ว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาแต่อย่างใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาอื่นอีกต่อไปเนื่องจาก
ไม่เปลี่ยนแปลงผลแห่งคดี

         พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ.

(พัฒนไชย ยอดพยุง - จักรกฤษณ์ เจนเจษฎา - จุมพล ภิญโญสินวัฒน์)

 

อมรชัย ศิริถาพร - ย่อ

กลอน รักษา - ตรวจ