คำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ  นาง ช.                                              โจทก์       

         ที่ วยช 58/2567                               นาย น.                                            จำเลย

            คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ โดยกล่าวอ้างว่าจำเลยหลอกลวงโจทก์ว่าจำเลยไม่มีภริยาทำให้โจทก์หลงเชื่อยอมติดต่อคบหาและผูกข้อมือตามประเพณีกับจำเลยจนกระทั่ง
ภริยาชอบด้วยกฎหมายของจำเลยฟ้องเรียกค่าทดแทนจากโจทก์ในฐานะหญิงชู้ เป็นเหตุให้โจทก์
ได้รับความเสียหายทั้งด้านจิตใจและชื่อเสียง อันเป็นการฟ้องโดยอาศัยมูลละเมิดซึ่งจะต้องบังคับ
ตาม ป.พ.พ. บรรพ 2 ลักษณะ 5 ว่าด้วยละเมิด คดีนี้จึงไม่เป็นคดีครอบครัว

______________________________

 

         โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน ๒๕๖๓ โจทก์รู้จักกับจำเลยและติดต่อกันเรื่อยมา
โดยจำเลยอ้างว่ายังไม่มีภริยา ประมาณเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ จำเลยให้โจทก์แจ้งแก่บิดามารดาโจทก์ว่าจะขอทำพิธีผูกข้อมือตามประเพณี แล้วโจทก์กับจำเลยทำพิธีผูกข้อมือต่อหน้าญาติพี่น้องโจทก์
ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำเลยบอกโจทก์ว่าหากจำเลยย้ายมารับราชการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว
จำเลยจะจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ต่อไป จำเลยหลอกลวงโจทก์จนกระทั่งภริยาชอบด้วยกฎหมาย
ของจำเลยฟ้องเรียกค่าทดแทนจากโจทก์ในฐานะหญิงชู้ ถือว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายด้านจิตใจและชื่อเสียง บิดาโจทก์ได้รับความทุกข์ทรมานด้านจิตใจ ทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาโจทก์เข้าใจว่าโจทก์เป็นชู้กับจำเลย ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ 300,000 บาท

         จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า จำเลยไม่เคยหลอกลวงโจทก์ว่าจำเลยไม่มีภริยา โจทก์ทราบว่าจำเลยมีภริยาชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้วแต่ยังสมัครใจคบหากับจำเลย ค่าเสียหายตามคำฟ้อง
เป็นค่าเสียหายที่เลื่อนลอยมิได้เกิดขึ้นจริง คดีนี้เป็นคดีละเมิดจึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษา
ของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน โจทก์ใช้สิทธิฟ้องคดีโดยไม่สุจริตและไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

         ระหว่างพิจารณา จำเลยยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเรื่องเขตอำนาจศาล ศาลเยาวชน
และครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอนพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีมีปัญหาว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัวหรือไม่ จึงให้รอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราว แล้วเสนอปัญหาดังกล่าวให้ประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๑

         วินิจฉัยว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัวหรือไม่
เห็นว่า พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๔ บัญญัติว่า “คดีครอบครัว” หมายความว่า คดีแพ่งที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาลหรือกระทำการใด ๆ ในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัว ซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับครอบครัว ดังนั้น คดีที่เกี่ยวด้วยการสมรส สิทธิและหน้าที่หรือความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา บิดามารดาและบุตรไม่ว่าในทางใด
ซึ่งพิพาทกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ ทั้งหมด คดีที่เกี่ยวด้วยสถานะ
และความสามารถของบุคคลเกี่ยวกับครอบครัวหรือส่วนได้เสียของผู้เยาว์ ซึ่งพิพาทกันตามประมวลกฎหมายแพ่ง

 

 

และพาณิชย์ ในบรรพ ๑ มาตรา ๒๑ ถึง ๒๘, ๓๒, ๔๓ และ ๔๔ และในบรรพ ๖ มาตรา ๑๖๑๐, ๑๖๑๑, ๑๖๘๗ และ ๑๖๙๒ รวมทั้งคดีที่เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัวหรือกฎหมายอื่น
ที่เกี่ยวกับครอบครัว ย่อมถือเป็นคดีครอบครัวตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว
และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๐ (๓) คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ โดยกล่าวอ้างว่าจำเลยหลอกลวงโจทก์ว่าจำเลยไม่มีภริยาทำให้โจทก์หลงเชื่อยอมติดต่อคบหาและผูกข้อมือตามประเพณีกับจำเลยจนกระทั่งภริยาชอบด้วยกฎหมายของจำเลย
ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากโจทก์ในฐานะหญิงชู้ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายทั้งด้านจิตใจ
และชื่อเสียง อันเป็นการฟ้องโดยอาศัยมูลละเมิดซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 2 ลักษณะ 5 ว่าด้วยละเมิด คดีนี้จึงไม่เป็นคดีครอบครัวตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชน
และครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๐ (๓)

         วินิจฉัยว่า คดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัว

 

วินิจฉัย ณ วันที่ ๒๑ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖7

 

ประกอบ ลีนะเปสนันท์

(นายประกอบ ลีนะเปสนันท์)

ประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ

 

ณิศรา กิจคณาศิริ - ย่อ

สัญชัย ภักดีบุตร - ตรวจ