Print
Category: 2567
Hits: 7

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 2507/2567 บริษัท ค.                                 โจทก์

                                                                      กองทุนรวม ก.                            ผู้ร้อง

                                                                      เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์         ผู้คัดค้าน

                                                                      ห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. กับพวก          จำเลย

ป.พ.พ. มาตรา 744

พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 97

         เมื่อผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมทรัพย์จำนองหลักประกันตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๗ ซึ่งบัญญัติว่า "ถ้าเจ้าหนี้มีประกันขอรับชำระหนี้โดยไม่แจ้งว่าเป็นเจ้าหนี้มีประกัน
เจ้าหนี้นั้นต้องคืนทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และสิทธิเหนือทรัพย์นั้นเป็นอันระงับ เว้นแต่เจ้าหนี้นั้นจะแสดงต่อศาลได้ว่า การละเว้นนั้นเกิดขึ้นโดยพลั้งเผลอ ในกรณีเช่นนี้ ศาลอาจอนุญาตให้แก้ไขข้อความในรายการแห่งคำขอรับชำระหนี้ โดยกำหนดให้คืนส่วนแบ่งหรือกำหนดอย่างอื่นตามที่เห็นสมควรก็ได้" เช่นนี้เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องและคำสั่งดังกล่าวถึงที่สุด แม้ว่าคำสั่งศาลล้มละลายกลางจะมิได้ระบุให้สิทธิเหนือทรัพย์จำนอง
ในที่ดินทั้งสองแปลงของจำเลยที่ ๔ เป็นอันระงับไปก็ตาม ผู้ร้องก็ย่อมต้องผูกพันตามผลที่กฎหมายบัญญัติไว้ในมาตรา ๙๗ ที่ให้ผู้ร้องต้องคืนทรัพย์สินหลักประกันแก่ผู้คัดค้านและให้สิทธิ
เหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเป็นอันระงับ ทั้งนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๗๔๔ ก็มิได้จำกัดว่า
หนี้จำนองจะระงับสิ้นไปได้เฉพาะกรณีที่ระบุในบทบัญญัติดังกล่าว เช่นนี้สิทธิจำนองจึงเป็นอันระงับและสิ้นไปตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๗ ได้อีกด้วย

______________________________

         ผู้ร้องยื่นคำร้อง ขอให้มีคำสั่งยกคำสั่งของผู้คัดค้าน และอนุญาตให้ผู้ร้องกันส่วนเงินจาก
การขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๙๙๖๒ และ ๔๙๙๖๓ จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรี) เพื่อนำเงินมา
ชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิจำนองต่อไป

         ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง

         ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งให้ยกร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

         ผู้ร้องอุทธรณ์

         ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า ภายหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสี่เด็ดขาดแล้ว ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๖ (๓) โดยมีที่ดินติดจำนอง
ของจำเลยที่ ๒ เป็นทรัพย์หลักประกัน ผู้คัดค้านสอบสวนและทำความเห็นเสนอศาล ศาลล้มละลายกลางพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๖ (๓) จากการขายทอดตลาดที่ดินหลักประกันตามคำขอรับชำระหนี้ ตามความเห็นของผู้คัดค้าน คดีถึงที่สุด ต่อมาเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๙ ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาล
ขอแก้ไขเพิ่มเติมหลักทรัพย์ประกันจำนองคือ ที่ดินตามโฉนดเลขที่ ๔๙๙๖๒ และ ๔๙๙๖๓
จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรี) ของจำเลยที่ ๔ โดยอ้างเหตุพลั้งเผลอ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย
พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๗ ศาลไต่สวนและพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องขออนุญาตอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษพิจารณาแล้ว มีคำสั่งไม่อนุญาตให้อุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง และคดีถึงที่สุด หลังจากนั้น ผู้คัดค้านยึดที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวเพื่อขายทอดตลาด ต่อมาเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๕
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ผู้คัดค้านกันเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวแล้วนำมาชำระหนี้จำนองให้แก่ผู้ร้อง ผู้คัดค้านพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ร้องไม่เห็นด้วยจึงยื่นคำร้อง
ต่อศาลเป็นคดีนี้

         คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิเหนือที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๙๙๖๒
และ ๔๙๙๖๓ จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรี) ในฐานะผู้รับจำนองอีกหรือไม่ เห็นว่า เดิมผู้ร้องขอรับชำระหนี้
ในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๖ (๓) จากการขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันของจำเลยที่ ๒ ส่วนการขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ ๔ ผู้ร้อง
ไม่มีทรัพย์หลักประกันของจำเลยที่ ๔ ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้แต่อย่างใด จึงเป็นการขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ ๔ อย่างเจ้าหนี้ไม่มีประกัน เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมทรัพย์จำนองหลักประกัน คือที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๙๙๖๒ และเลขที่ ๔๙๙๖๓ จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรี) ของจำเลยที่ ๔ โดยอ้างว่า การละเว้นนั้นเกิดจากความพลั้งเผลอ กรณีจึงเป็นการขอแก้ไขเพิ่มเติมทรัพย์จำนอง
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๗ ซึ่งมาตรา ๙๗ บัญญัติว่า “ถ้าเจ้าหนี้มีประกันขอรับชําระหนี้โดยไม่แจ้งว่าเป็นเจ้าหนี้มีประกัน เจ้าหนี้นั้นต้องคืนทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน
แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และสิทธิเหนือทรัพย์นั้นเป็นอันระงับ เว้นแต่เจ้าหนี้นั้นจะแสดงต่อศาลได้ว่า การละเว้นนั้นเกิดขึ้นโดยพลั้งเผลอ ในกรณีเช่นนี้ ศาลอาจอนุญาตให้แก้ไขข้อความในรายการ
แห่งคําขอรับชําระหนี้ โดยกําหนดให้คืนส่วนแบ่งหรือกําหนดอย่างอื่นตามที่เห็นสมควรก็ได้” เช่นนี้
เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องและคำสั่งดังกล่าวถึงที่สุด แม้ว่าคำสั่งศาลล้มละลายกลางจะมิได้ระบุให้สิทธิเหนือทรัพย์จำนองในที่ดินทั้งสองแปลงของจำเลยที่ ๔ เป็นอันระงับไปก็ตาม ผู้ร้อง
ก็ย่อมต้องผูกพันตามผลที่กฎหมายบัญญัติไว้ในมาตรา ๙๗ ที่ให้ผู้ร้องต้องคืนทรัพย์สินหลักประกัน
แก่ผู้คัดค้าน และให้สิทธิเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเป็นอันระงับ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๔๔ ก็มิได้จำกัดว่า หนี้จำนองจะระงับสิ้นไปได้เฉพาะกรณีที่ระบุในบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๗ บัญญัติว่า “ถ้าเจ้าหนี้มีประกัน
ขอรับชําระหนี้โดยไม่แจ้งว่าเป็นเจ้าหนี้มีประกัน เจ้าหนี้นั้นต้องคืนทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน
แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และสิทธิเหนือทรัพย์นั้นเป็นอันระงับ...” เช่นนี้สิทธิจำนองเป็นอันระงับ
และสิ้นไปตามบทบัญญัตินี้ได้อีกด้วย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิจำนองเหนือที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๙๙๖๒
และเลขที่ ๔๙๙๖๓ จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรี) อีกต่อไป ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ของผู้ร้องมานั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

         พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

(เอื้อน ขุนแก้ว – ศักดิ์เสถียร สวนสุข – วาสนา บุญทรงสันติกุล)

สรายุทธ์ เตชะวุฒิพันธุ์ - ย่อ

                               ปวีณา แสงสว่าง - ตรวจ