Print
Category: 2564
Hits: 1880

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษที่ 441/2564

พนักงานอัยการจังหวัดยโสธร           โจทก์

นายปริทพาล ซิงห์                       จำเลย

 

ป.อ. มาตรา ๓๓ (๑)

พ.ร.ก. บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มาตรา ๘, 101 วรรคหนึ่ง 

        โจทก์ฟ้องจำเลยความผิดฐานจำหน่าย เสนอจำหน่าย และมีไว้ซึ่งสินค้าที่เลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไปและความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเร่ขายสินค้า
ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องห้ามสำหรับบุคคลต่างด้าวทำเพื่อการค้าหรือหารายได้โดยเด็ดขาด พร้อมกับมี
คำขอให้ริบของกลางนาฬิกาข้อมือ แว่นตา สร้อยคอสีทอง ต่างหูสีทอง แหวน และรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าที่จำเลยนำออกเร่ขายและใช้เป็นพาหนะบรรทุกสินค้าดังกล่าว ซึ่งความผิดฐานเร่ขายสินค้านั้น พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มาตรา 101 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 8 และ พ.ร.ฎ. กำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 และ (35) บัญชีท้าย พ.ร.ฎ. กำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
พ.ศ. 2522 กำหนดให้สงวนอาชีพเร่ขายสินค้าแก่ผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น จำเลยเป็นบุคคลต่างด้าวไม่มีทางได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพเร่ขายสินค้าได้ จำเลยได้เร่ขายสินค้าตามฟ้อง
ในราชอาณาจักร การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดเพราะฝ่าฝืนกฎหมายที่กำหนดไว้ในตัว
ไม่ใช่เป็นการกระทำความผิดเพราะไม่ได้รับอนุญาต เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังว่า สินค้านาฬิกาข้อมือ แว่นตา สร้อยคอสีทอง ต่างหูสีทอง แหวน และรถจักรยานยนต์ เป็นสินค้าที่จำเลยมีไว้และได้ใช้
หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเร่ขายสินค้า จึงเป็นทรัพย์ที่ศาลอาจริบได้ตาม ป.อ. มาตรา 33 (๑) 

______________________________

         โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 4, 109, 110, 115 พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มาตรา 5, 7, 8, 101, 134, 154 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๓๓, 91 และริบของกลาง

         จำเลยให้การรับสารภาพ

         ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิด
ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 110 (1) ประกอบมาตรา 109
พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มาตรา 101 วรรคแรก
(ที่ถูก วรรคหนึ่ง) ประกอบมาตรา 8 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานเสนอจำหน่าย และมีไว้
เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า มาตรา 110 (1) ประกอบมาตรา 109
ปรับ 5,000 บาท ฐานเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 5,000 บาท รวมทุกกระทงความผิด เป็นปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงปรับ 5,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับ

 

 

 

ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ริบนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ DEBOR 2 เรือน ของกลาง ส่วนที่โจทก์ขอให้ริบนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ SENKO 6 เรือน นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ JYQ 3 เรือน แว่นตา 25 อัน สร้อยคอสีทอง 45 เส้น ต่างหูสีทอง 24 คู่ แหวน 11 วง และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ของกลาง นั้น กรณีไม่ปรากฏโดยแน่ชัดว่าเป็นทรัพย์ที่มีหรือใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้ให้เกิดผลในการกระทำความผิด จึงไม่อาจริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33ให้ยกคำขอในส่วนนี้

         โจทก์อุทธรณ์

         ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 เวลากลางวัน จำเลยได้จำหน่าย เสนอจำหน่าย
และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้านาฬิกาข้อมือ 2 เรือน ที่มีเครื่องหมายการค้าซึ่งมีผู้ทำเลียนเครื่องหมายการค้าของบริษัทวี ผู้เสียหาย ซึ่งได้จดทะเบียนไว้โดยชอบแล้วแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงของผู้เสียหาย โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสินค้าที่ทำเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้เสียหาย และจำเลยซึ่งเป็นคนต่างด้าว เชื้อชาติอินเดีย สัญชาติอินเดีย
ซึ่งเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยรับอนุญาตประเภทนักท่องเที่ยว ได้ประกอบอาชีพเร่ขายสินค้า อันเป็นอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าวทำเพื่อการค้าหรือหารายได้โดยเด็ดขาด ที่ตำบลค้อเหนือ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เพื่อหารายได้ของจำเลย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและไม่มีเหตุยกเว้นใด ๆ ตามกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุทั้งหมดเกิดที่ตำบลค้อเหนือ
อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เกี่ยวพันกัน ตามวันเวลาดังกล่าว เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมยึดสินค้านาฬิกาข้อมือยี่ห้อ DEBOR 2 เรือน นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ SENKO 6 เรือน นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ JYQ 3 เรือน แว่นตา 25 อัน สร้อยคอสีทอง 45 เส้น ต่างหูสีทอง 24 คู่ แหวน 11 วง และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ไว้เป็นของกลาง คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์โจทก์เพียงประการเดียวว่า ทรัพย์ของกลางส่วนที่เหลือเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด และโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้แล้วจึงต้องริบทรัพย์ของกลางตามฟ้องทั้งหมดหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานจำหน่าย เสนอจำหน่าย และมีไว้ซึ่งสินค้า คือนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ DEBOR 2 เรือน ซึ่งเป็นสินค้าที่เลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น เพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป และความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเร่ขายสินค้า อันเป็นอาชีพที่ต้องห้ามสำหรับบุคคลต่างด้าวทำเพื่อการค้าหรือหารายได้โดยเด็ดขาด พร้อมมีคำขอให้ริบของกลาง นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ DEBOR 2 เรือน ซึ่งเป็นสินค้าที่เลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น และนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ SENKO 6 เรือน นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ JYQ 3 เรือน แว่นตา 25 อัน สร้อยคอสีทอง 45 เส้น ต่างหูสีทอง 24 คู่ แหวน 11 วง และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ซึ่งเป็นสินค้าที่จำเลยนำออกเร่ขายและใช้เป็นพาหนะบรรทุกสินค้าดังกล่าว ซึ่งความผิดฐานเร่ขายสินค้านั้น พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มาตรา 101 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 8 และพระราชกฤษฎีกากำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 และ (35) บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา
กำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 กำหนดให้สงวนอาชีพเร่ขายสินค้า
แก่ผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น จำเลยเป็นบุคคลต่างด้าวไม่มีทางที่จะได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพ
เร่ขายสินค้า จำเลยได้เร่ขายสินค้าตามฟ้องในราชอาณาจักร การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด
.

 

 

 

เพราะฝ่าฝืนกฎหมายที่กำหนดไว้ในตัว ไม่ใช่เป็นการกระทำความผิดเพราะไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังว่า สินค้านาฬิกาข้อมือยี่ห้อ SENKO 6 เรือน นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ JYQ 3 เรือน แว่นตา 25 อัน สร้อยคอสีทอง 45 เส้น ต่างหูสีทอง 24 คู่ แหวน
11 วง และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน เป็นสินค้าที่จำเลยได้ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเร่ขายสินค้า จึงเป็นทรัพย์ที่ศาลอาจริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (๑) แล้ว
ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางสั่งไม่ริบของกลางดังกล่าว ศาลอุทธรณ์
คดีชำนัญพิเศษไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น

         พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ SENKO 6 เรือน นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ JYQ 3 เรือน
แว่นตา 25 อัน สร้อยคองสีทอง 45 เส้น ต่างหูสีทอง 24 คู่ แหวน 11 วง และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน เสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง.

(มนตรี ศิลป์มหาบัณฑิต - จักรกฤษณ์ เจนเจษฎา - จุมพล ภิญโญสินวัฒน์)

 

ณัฐจิรา  ขันทอง - ย่อ

นิภา  ชัยเจริญ - ตรวจ

 

หมายเหตุ   คดีถึงที่สุด