Print
Category: 2567
Hits: 119

คำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ  นางสาว บ.                                     โจทก์       

         ที่ วยช 73/2567                               นาย ป.                                            จำเลย

 

            โจทก์ในฐานะทายาทโดยธรรมของนาง ต. ฟ้องขอให้บังคับจำเลยแบ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทส่วนที่เป็นของนาง ต. ผู้ตาย โดยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างนาง ต. กับจำเลย จำเลย
ให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นสินส่วนตัวของจำเลย ไม่ใช่สินสมรส ซึ่งตามคำฟ้องและคำให้การมีประเด็นข้อพิพาทสำคัญที่ต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์กับจำเลยโต้แย้งกันเสียก่อนว่าทรัพย์สินพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างนาง ต. กับจำเลย หรือเป็นสินส่วนตัวของจำเลย อันเป็นคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยาในทางทรัพย์สินที่ต้องบังคับตาม ป.พ.พ. บรรพ ๕ มาตรา ๑๔๗๐ ถึง ๑๔๗๔ จึงเป็น
คดีครอบครัว

______________________________

         โจทก์ฟ้องว่า นาย ส. กับนาง ต. เป็นสามีภริยาชอบด้วยกฎหมาย มีบุตรด้วยกัน ๒ คน
คือ โจทก์ และนางสาว ช. นาย ส. ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๖ ต่อมาเมื่อวันที่
๒๘ กันยายน ๒๕๔๗ นาง ต. จดทะเบียนสมรสกับจำเลย ระหว่างสมรสเมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๓
นาง ต. กับจำเลยร่วมกันซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๘๖๖ ตำบลปากน้ำ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
เนื้อที่ ๗ ไร่ ๑ งาน ๘๙ ตารางวา โดยตกลงให้จำเลยเป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ ที่ดินดังกล่าวเป็นทรัพย์สิน
ที่นาง ต. กับจำเลยได้มาระหว่างสมรสจึงเป็นสินสมรส ต่อมานาง ต. ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่
๓๐ มีนาคม ๒๕๖๖ ที่ดินดังกล่าวในส่วนที่เป็นสินสมรสของนาง ต. จึงเป็นทรัพย์มรดกตกทอดแก่ทายาท โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยแบ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทในส่วนของนาง ต. ให้แก่โจทก์และนางสาว ช.
ซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของนาง ต. คนละส่วนเท่า ๆ กัน แต่จำเลยกล่าวอ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นสินส่วนตัวของจำเลยเพียงผู้เดียว การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลย
ส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๘๖๖ ตำบลปากน้ำ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ให้แก่โจทก์
และให้จำเลยโอนแบ่งที่ดินพิพาทเนื้อที่ ๓ ไร่ ๑ งาน ให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ดำเนินการ ให้โจทก์ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลย และหากจำเลยไม่ส่งมอบหรือแบ่งที่ดิน
โฉนดเลขที่ ๑๕๘๖๖ ตำบลปากน้ำ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย แก่โจทก์ไม่ได้ ให้นำทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดและนำเงินมาแบ่งกันต่อไป

         จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นสินส่วนตัวของจำเลย เนื่องจากจำเลยนำเงินส่วนตัว
ซื้อที่ดินพิพาท แม้จะเป็นการได้ที่ดินพิพาทมาระหว่างสมรสก็ไม่ใช่สินสมรส อย่างไรก็ตาม
หากที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสจำเลยย่อมมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินกึ่งหนึ่ง ส่วนที่ดินอีกกึ่งหนึ่งต้องแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ส่วนของจำเลย โจทก์ และนางสาว ช. และกรณีที่โจทก์บังคับให้จำเลยแบ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่นางสาว ช. ไม่อาจกระทำได้เนื่องจากนางสาว ช. ไม่ได้เป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ เพราะการฟ้องคดี
เป็นอำนาจเฉพาะตัวเท่านั้น ขอให้ยกฟ้อง

         ระหว่างพิจารณา ศาลจังหวัดสวรรคโลกพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีมีปัญหาว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัวหรือไม่ จึงให้รอการพิจารณาพิพากษาไว้ชั่วคราว
แล้วเสนอปัญหาดังกล่าวให้ประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๑

 

 

 

         วินิจฉัยว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัวหรือไม่
เห็นว่า พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๔ บัญญัติว่า “คดีครอบครัว” หมายความว่า คดีแพ่งที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาลหรือกระทำการใด ๆ ในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัวซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับครอบครัว ดังนั้น คดีที่เกี่ยวด้วยการสมรส สิทธิและหน้าที่หรือความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา บิดามารดาและบุตรไม่ว่าในทางใด
ซึ่งพิพาทกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ ทั้งหมด คดีที่เกี่ยวด้วยสถานะ
และความสามารถของบุคคลเกี่ยวกับครอบครัวหรือส่วนได้เสียของผู้เยาว์ซึ่งพิพาทกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในบรรพ ๑ มาตรา ๒๑ ถึง ๒๘, ๓๒, ๔๓ และ ๔๔ และในบรรพ ๖ มาตรา ๑๖๑๐, ๑๖๑๑, ๑๖๘๗ และ ๑๖๙๒ รวมทั้งคดีที่เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว
หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับครอบครัวย่อมถือเป็นคดีครอบครัวตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชน
และครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๐ (๓) คดีนี้โจทก์
ในฐานะทายาทโดยธรรมของนาง ต. ฟ้องขอให้บังคับจำเลยแบ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทส่วนที่เป็น
ของนาง ต. ผู้ตาย โดยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างนาง ต. กับจำเลย จำเลยให้การว่า
ที่ดินพิพาทเป็นสินส่วนตัวของจำเลย ไม่ใช่สินสมรส ซึ่งตามคำฟ้องและคำให้การมีประเด็นข้อพิพาทสำคัญที่ต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์กับจำเลยโต้แย้งกันเสียก่อนว่า ทรัพย์สินพิพาทเป็นสินสมรสระหว่าง
นาง ต. กับจำเลย หรือเป็นสินส่วนตัวของจำเลย อันเป็นคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยาในทางทรัพย์สินที่ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ มาตรา ๑๔๗๐ ถึง ๑๔๗๔ จึงเป็นคดีครอบครัวตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชน
และครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๐ (๓)

         วินิจฉัยว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัว

 

วินิจฉัย ณ วันที่ ๒ เดือน กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗

 

ประกอบ ลีนะเปสนันท์

(นายประกอบ ลีนะเปสนันท์)

ประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ

 

 

อุษา จิวะชาติ - ย่อ

สัญชัย ภักดีบุตร - ตรวจ